
default
ค้าน ! เวทีรับฟังผลกระทบ “เขื่อนปากแบง” เดือด “ครูตี๋” จวกกระบวนการศึกษาอัปยศ ชาวบ้านโวยอาจต้องแลกบ้าน-ปลา-ชีวิต กับไฟฟ้าที่ไม่เคยร้องขอ
เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2568 ที่ศาลาประชาคมบ้านห้วยลึก อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย บริษัทผู้พัฒนาโครงการ “โรงไฟฟ้าพลังน้ำปากแบง” จาก สปป.ลาว จัดเวทีรับฟังความคิดเห็นต่อรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมข้ามพรมแดน (TbEIA) ของเขื่อนปากแบง บนแม่น้ำโขง โดยมีผู้เข้าร่วมราว 70 คน ส่วนใหญ่เป็นชาวบ้านในพื้นที่ โดยเวทีดังกล่าวถูกวิพากษ์อย่างหนักจากชาวบ้านและนักเคลื่อนไหวสิ่งแวดล้อม ว่าเป็นเพียง “พิธีกรรมทางเอกสาร” ไม่ฟังเสียงประชาชนที่ได้รับผลกระทบจริง
ผู้พัฒนาชี้เขื่อนปากแบงไม่กระทบไทย – ชาวบ้านโต้กลับ “น้ำเอ่ออยู่ดี”
ดร.วรวิทย์ ผดุงศรีบวร รอง ผอ.ฝ่ายบริหารโครงการฯ อ้างว่า เขื่อนถูกออกแบบแบบ “น้ำเข้าเท่าไร น้ำออกเท่านั้น” ระดับน้ำกักเก็บอยู่ที่ 340 เมตรในฤดูน้ำ และ 335 เมตรในฤดูแล้ง พร้อมระบบระบายน้ำ 14 ช่อง ทางเดินเรือ ทางผ่านปลา และการศึกษาตามข้อเสนอ MRC โดยจะเริ่มก่อสร้างในเดือนตุลาคม 2568

ขณะที่ นางเยาวภา ชูวงศ์ ผู้แทนบริษัทที่ปรึกษา ระบุว่าการศึกษาผลกระทบข้ามพรมแดนอยู่ระหว่างการปรับปรุงตามมาตรฐานสากล โดยอ้างว่าแบบจำลองคณิตศาสตร์แสดงว่าน้ำจะไม่ท่วมพื้นที่ฝั่งไทย
อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านกลับให้ข้อมูลตรงกันข้ามว่า ระดับน้ำในอดีตเคยท่วมสูงถึง 357 เมตรที่แก่งผาได ซึ่งเกินกว่าระดับที่ระบุไว้ในรายงานมาก
“ครูตี๋” ซัดกระบวนการศึกษาอัปยศ – ชาวบ้านโวยไม่อยากได้เงิน แต่อยากได้ “ผืนดินคืน”
นายนิวัฒน์ ร้อยแก้ว หรือ “ครูตี๋” แกนนำกลุ่มรักษ์เชียงของ กล่าวอย่างเผ็ดร้อนว่า โครงการนี้เต็มไปด้วยความไม่โปร่งใส ทุกกระบวนการตั้งแต่ PNPCA ไปจนถึงการเซ็นสัญญาขายไฟฟ้า ทั้งที่คำถามจากชาวบ้านยังไม่ได้คำตอบ พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า รายงาน TbEIA ทำเพียงเพื่อผ่านเงื่อนไขการขอกู้เงินจากสถาบันการเงิน

ขณะที่ชาวบ้าน อาทิ นายทองสุข อินทวงศ์ อดีตผู้ใหญ่บ้าน, นายชัยวัฒน์ ดวงธิดา ชาวประมง, นางจันยา จันทิพย์ สมาชิกเครือข่ายผู้หญิงลุ่มน้ำโขง ต่างสะท้อนความวิตกถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น ทั้งด้านที่อยู่อาศัย การหาปลา การเกษตร และความมั่นคงในชีวิต โดยเฉพาะผู้หญิงในพื้นที่ซึ่งอาชีพอิงกับแม่น้ำโดยตรง
“เราไม่อยากได้เงิน อยากได้ที่ดินของเรา ถ้าแม่น้ำกลายเป็นอ่างพิษ เราจะมีชีวิตอยู่ต่อไปอย่างไร” – ตัวแทนเครือข่ายผู้หญิงลุ่มน้ำโขงกล่าว
ชี้เขื่อนอาจซ้ำเติมปัญหาโลหะหนัก – เรียกร้องหยุดก่อนสาย
น.ส.เพียรพร ดีเทศน์ ผอ.องค์กร International Rivers ชี้ว่า แม่น้ำโขงและแม่น้ำสาย/กก/รวก กำลังเผชิญปัญหาสารปนเปื้อนจากเหมืองในจีน หากเขื่อนปากแบงถูกสร้าง อ่างเก็บน้ำขนาดยักษ์อาจกลายเป็น “อ่างพิษ” ที่ซ้ำเติมวิกฤตสิ่งแวดล้อมและสุขภาพประชาชน

ขณะเดียวกัน น.ส.ไพรินทร์ เสาะสาย จากมูลนิธิแม่น้ำนานาชาติ เปิดเผยว่า รายงาน TbEIA ที่แจกให้ชาวบ้านเพียง 7 หน้ากระดาษ และเป็นภาษาอังกฤษ ทั้งที่ชาวบ้านต้องตัดสินใจเรื่องอนาคตตนเอง
เสียงจากลุ่มน้ำโขง: “น้ำยังไม่ท่วม ก็เจ็บแล้ว”
บรรยากาศเวทีเต็มไปด้วยความกังวล ชาวบ้านสูงวัยหลายคนสะท้อนว่าตนเองไม่เข้าใจข้อมูลเชิงเทคนิค แต่รู้เพียงว่า “ถ้าท่วม แล้วใครจะรับผิดชอบ” การพูดคุยกลายเป็นเวทีแสดงความไม่เชื่อมั่นต่อกระบวนการที่เกิดขึ้น และเรียกร้องให้มีการศึกษาที่โปร่งใส ฟังเสียงชาวบ้านจริง ๆ ก่อนจะสายเกินไป.